17 May Hygienic Packaging โอกาสเพิ่มมูลค่าสินค้ายุคโควิด-19
ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สามารถเติบโตสวนทางกับเศรษฐกิจ โดยได้รับอานิสงส์จากยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ของธุรกิจ e-Commerce และธุรกิจส่งอาหารที่ขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ ปิดห้างสรรพสินค้า ห้ามการนั่งรับประทานในร้านอาหาร
จากข้อมูลของ Packaging Intelligence Unit กระทรวงอุตสาหกรรม ปริมาณการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดในประเทศสามารถขยายตัวได้ราว 3% YOY ในปี 2020 แม้ว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยมี GDP หดตัว -6.1% จากโควิด-19 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาด และข้อมูลล่าสุดในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 ปริมาณการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ในประเทศเติบโตถึงกว่า 12% YOY มาอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริโภคได้หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ และตระหนักถึงสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นเมกะเทรนด์ที่จะเปลี่ยนโฉมรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ในโลกยุคโควิด และโลกหลังโควิดต่อไปในอนาคต นอกจากบรรจุภัณฑ์ช่วยรักษาคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าภายในแล้ว ผู้บริโภคยังมั่นใจว่าสินค้าในบรรจุภัณฑ์สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ ไม่มีการจับต้องจากมือผู้อื่นอีกด้วย
ในอดีตตามซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด วางขายผักผลไม้ให้ลูกค้าเลือกหยิบจับได้ตามใจชอบ ไม่มีการแพ็กใส่ถุงหรือกล่องแต่อย่างใด ปัจจุบันสินค้าต่าง ๆ ควรต้องถูกแพ็กลงในบรรจุภัณฑ์ให้เรียบร้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรค ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขอนามัย (hygienic packaging) จะมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการบรรจุภัณฑ์และแบรนด์สินค้าในการเพิ่มมูลค่าสินค้า
ทั้งนี้ Transparency Market Research (ตีพิมพ์เดือนมกราคม 2021) คาดการณ์ว่าตลาด hygienic packaging จะเติบโต 6% ต่อปี ระหว่างปี 2020-2028 ปัจจุบัน hygienic packaging ได้พัฒนา 2 ด้าน คือ 1) วัสดุที่นำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ 2) การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ
ในด้านวัสดุองค์การอนามัยโลกรายงานว่า โคโรนาไวรัสสามารถอยู่บนพื้นผิวได้หลายชั่วโมงจนถึงหลายวัน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นผิว เช่น อะลูมิเนียมอยู่ได้ 2-8 ชั่วโมง พลาสติกและกระดาษอยู่ได้ 4-5 วัน ในขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐชี้ว่า 80% ของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยนั้นติดมาจากการสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ
ทั้งนี้ บรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องสินค้า กล่องใส่อาหาร ถุงพลาสติก เป็นสิ่งที่ถูกหยิบจับ เปลี่ยนมือ ตั้งแต่กระบวนการแพ็กไปจนถึงขั้นตอนการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค ในธุรกิจส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น อาหารถูกขนส่งโดย rider ยิ่งถ้าเป็นสินค้า e-Commerce อาจต้องส่งไปพักตามศูนย์กระจายสินค้าและมีการจัดส่งหลายต่อ กว่าจะถึงมือผู้บริโภคต้องผ่านผู้รับ-ส่งสินค้าไม่มากก็น้อย
จากวิกฤตโควิด-19 จึงได้มีการพัฒนานวัตกรรมสารเคลือบผิวบนบรรจุภัณฑ์เพื่อยับยั้งการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ (antimicrobial coating) ซึ่งใช้เทคโนโลยี silver ions ยับยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99.9% สามารถนำมาเคลือบบนบรรจุภัณฑ์ได้ในทุกวัสดุพื้นผิว เช่น กระดาษ แก้ว พลาสติก โลหะ ผืนผ้า ซึ่งสารเคลือบนี้จะคงอยู่ตลอดอายุการใช้งานของบรรจุภัณฑ์ ปัจจุบันได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ นำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร สินค้าเพื่อสุขภาพ ฯลฯ
ในด้านการออกแบบ hygienic packaging ถูกออกแบบให้ป้องกันการเปิด งัดแงะ หรือช่วยให้ผู้บริโภคทราบว่าบรรจุภัณฑ์นี้ถูกเปิดออกแล้ว ซึ่งแต่เดิมบรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้ใช้ในอุตสาหกรรมยาและอาหารเสริมเป็นหลัก โดยมีแผ่นพลาสติกซีลปิดตรงปากขวดยา สำหรับสินค้าอื่น ๆ จะอยู่ในรูปของสติ๊กเกอร์ สกอตช์เทป หรือฉลากที่แปะอยู่ตรงปากถุงหรือกล่อง สามารถบอกได้ว่ากล่องได้ถูกเปิดแล้วหากสติ๊กเกอร์ถูกฉีกออก ปัจจุบันได้มีการพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ปิดผนึกแน่นหนา แต่สะดวกและง่ายต่อการเปิด ป้องกันการสัมผัสตัวสินค้าจากผู้อื่น
ตัวอย่าง บริษัท InnoPak ผู้ออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ของสหรัฐ ได้พัฒนา Handle Cuffs tamper-evident bag seals เป็นถุงกระดาษหูหิ้วมีแถบกระดาษแข็งปิดผนึกที่ปากถุง หากต้องการเปิดถุงต้องฉีกแถบกระดาษออกก่อน ออกแบบใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตแผนกของสด สลัดบาร์ ขายอาหารปรุงสุกพร้อมทาน และขยายไปยังผู้ประกอบการร้านอาหาร ธุรกิจส่งอาหารผ่านแอปสั่งซื้ออาหารออนไลน์ที่ลูกค้าหรือ rider สามารถรับถุงถือออกจากร้านได้ทันที InnoPak ชี้ว่าความต้องการบรรจุภัณฑ์ป้องกันการเปิดจะขยายตัวสูงขึ้นแม้โควิดคลี่คลาย
เช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์ธุรกิจความงาม หลายแบรนด์ปรับเปลี่ยนกระปุกครีมเป็นขวดแบบกดหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วจิ้มลงไปในสินค้า นอกจากนี้ สินค้าทดลอง (tester) ที่เดิมถูกวางไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ให้ลูกค้าสามารถแตะเนื้อครีม ลองสีลิปสติกได้ตามใจชอบ ปัจจุบันการเปิด tester วางให้ทดลองใช้โดยทั่วไปไม่สามารถทำได้ด้วยเหตุผลด้านสุขลักษณะ จำเป็นต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ tester ปิดผนึก มีขนาดเล็ก ทดลองใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
ดังเช่นบรรจุภัณฑ์ BeautiSeal สำหรับสินค้าเนื้อครีมหรือเนื้อแป้ง และ LiquaTouch สำหรับสินค้าที่อยู่ในรูปของเหลวอย่างน้ำหอม โดยบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวมีลักษณะบางขนาดเท่าเครดิตการ์ด สามารถลอกแผ่นที่ปิดผนึกด้านบนออกทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่มีปริมาณ2 มิลลิลิตรบรรจุอยู่ภายใน นอกจากให้ใช้ทดลองที่หน้าร้านแล้ว ยังสามารถส่งแผ่น tester ไปตามบ้านลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย หรือแถมไปให้ในกล่องของลูกค้า e-Commerce ได้ด้วย
นอกจากบรรจุภัณฑ์จะตอบโจทย์เรื่องสุขลักษณะแล้ว ควรต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนควบคู่กันด้วย เช่น บริษัทโคคา-โคลาออกบรรจุภัณฑ์ KeelClip topper สำหรับโค้กกระป๋องแบบ multipack (4-8 กระป๋องต่อ 1 แพ็ก) โดยเพิ่มแผ่นกระดาษแข็งปิดทับบนฝาโค้กกระป๋อง วางขายทั่วยุโรปในสิ้นปีนี้ นอกจากป้องกันสิ่งสกปรกบนฝากระป๋องแล้ว ยังใช้ทดแทนพลาสติกที่หุ้มแพ็กโค้กกระป๋องเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
เช่นเดียวกับบริษัท Waddington Europe ผู้ผลิตบรรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป ออก TamperVisible Hot Fill เป็นบรรจุภัณฑ์แบบใสป้องกันการเปิด ทำจากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) ทนความร้อนได้ถึง 85 องศาเซลเซียส สามารถใส่อาหารร้อนปรุงสุกใหม่ เช่น ซุป ก๋วยเตี๋ยว ตรงมุมฝาเปิดใช้ระบบ snap ถูกเปิดแล้วมุมบรรจุภัณฑ์จะหักออกทันที สบายใจได้ว่าอาหารไม่ถูกปนเปื้อน
แม้ว่าในอนาคตวิกฤตโควิดจะผ่านพ้นไป ความต้องการใช้ hygienic packaging มีแนวโน้มเติบโตตามเทรนด์รักสุขภาพ ผู้คนจะยังตระหนักถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยตามวิถีชีวิตแบบ new normal จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุที่นำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ สร้างนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ตอบโจทย์ด้านสุขอนามัยให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน
เช่นเดียวกับเจ้าของแบรนด์สินค้าสามารถสร้างความประทับใจ ความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขอนามัย